ถ้าเราลองสังเกตุข้างขวดข้างแกลลอนของน้ำยาล้างห้องน้ำ บางขวดจะมีสัญญลักษณ์เตือน บางขวดก็ไม่มี ขวดที่ไม่มีแสดงว่าไม่มีสารเคมีร้ายแรง ไม่มีสารกัดกร่อน แต่ต้องออกแรงขัดถูกันมากขึ้นเหมาะสำหรับแม่บ้านพ่อบ้านที่ขยันทำความสะอาดบ่อย แต่ถ้าเจอห้องน้ำหรือพื้นผิวที่สกปรกมากๆ ต้องใช้น้ำยาล้างห้องน้ำที่มีฤทธิ์รุนแรงมากขึ้น มีสารกัดกร่อน สารเคมีร้ายแรงอยู่ด้วย จึงมีคำเตือนในผลิตภัณฑ์ว่าห้ามนำไปใช้กับอ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ หรือที่มีโลหะ สัญญลักษณ์ที่เจอกันบ่อยๆคือ

สัญญลักษณ์	ความหมาย
	สารกัดกร่อน สามารถกัดกร่อนผิวหนัง และเป็นอันตราย ต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น กรดเกลือ กรดกำมะถัน โซเดียมไฮดรอกไซด์ แคลเซียมไฮเปอร์คลอไรด์ - กัดกร่อนผิวหนังและ ระคายเคืองต่อระบบ ทางเดินหายใจ - ทำปฏิกิริยากับโลหะ ทำให้เกิดก๊าซไวไฟ - อันตรายต่อสิ่งแวดล้อม
	ความเป็นพิษเฉียบพลัน/พิษร้ายแรง (เป็นอันตรายถึงชีวิต) ทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรงหลังจากการได้รับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายทางปากหรือผิวหนังเพียงครั้งเดียว หรือหลายครั้งภายในเวลา 24 ชั่วโมง หรือทางการหายใจเป้นเวลา 4 ชั่วโมง
	ตัวอย่างสัญญลักษณ์ข้างขวดน้ำยาล้างห้องน้ำ

ภาพประกอบจาก : besthealthmag.ca

ในยุคที่ทุกอย่างดูเร่งรีบ การทำงานแข่งกับเวลาจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และแน่นอนว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่อาจถึงขั้นทำงานหามรุ่งหามค่ำจนลืมดูแลตัวเอง สุดท้ายก็จบลงด้วยการเกิดความรู้สึกอ่อนล้าทั้งกายและใจ อย่างไรก็ตาม ความจริงแล้วอาการอ่อนล้าเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนค่ะ แม้ว่าดูเหมือนเป็นอาการทั่วไปที่ไม่น่ากังวลสักเท่าไร แต่ในบางครั้งร่างกายอาจกำลังส่งสัญญาณเตือนบางอย่างให้คุณรู้ เราลองมาดูรายละเอียดพร้อมกันเลยดีกว่า

อาการอ่อนล้าในผู้ใหญ่ระดับไหนที่เรียกว่าปติ?

อาการอ่อนล้าและความรู้สึกเหนื่อยที่เกิดขึ้นในวันถัดไปถือเป็นเรื่องปกติหากคุณนอนดึก แต่จะเริ่มน่าเป็นห่วงเมื่ออาการที่ว่านี้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความปลอดภัย เช่น การเผลองีบหลับในสถานการณ์ที่คุณจำเป็นต้องมีสติอย่างตอนขับรถ หรือตอนใช้เครื่องจักร ดังนั้นคุณควรปรึกษาแพทย์หากอาการอ่อนล้าเริ่มทำให้ชีวิตไม่ปลอดภัย ซึ่งแพทย์จำเป็นต้องทราบว่าคุณประสบอาการมานานเพียงไรแล้วเพื่อที่จะได้หาสาเหตุของความเหนื่อยล้า

สาเหตุที่ทำให้รู้สึกเหนื่อย?

วิถีชีวิตและนิสัยสามารถส่งผลต่อการพักผ่อน ไม่ว่าจะเป็นการมีสุขลักษณะการนอนที่ไม่ดี กะการทำงาน เจ็ทแล็ก และการใช้สารบางชนิด ก็ล้วนแต่ทำให้คุณมีอาการอ่อนล้ามาก
การทานยาบางชนิดเกินขนาดและการหยุดใช้ยาก็สามารถทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้าเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ยาต้านฮีสตามีน ยากันชัก ยาต้านอาการทางจิต ยาต้านเศร้า ยาแก้ปวด และยาระงับความวิตกกังวล เป็นต้น
ในขณะเดียวกัน โรคหรือภาวะที่สามารถทำให้คุณเหนื่อยล้ามากกว่าปกติมีดังนี้
• โรคโลหิตจาง
• ภาวะอิเล็กทรอไลต์เสียสมดุล
• โรคทางพันธุกรรม โรคทางระบบประสาท และโรคเกี่ยวกับการนอน
• ภาวะที่เกี่ยวกับหัวใจ ปอด ไทรอยด์ และตับ
• ปัญหาสุขภาพจิต เช่น ความวิตกกังวล โรคซึมเศร้า และโรคไบโพล่าร์
• ปัญหาเกี่ยวกับการเผาผลาญ เช่น โรคเบาหวาน
• โรคอ้วน
• โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
• การกรน
• มะเร็งหรือโรคที่เกี่ยวกับการติดเชื้อ

ฉันสามารถป้องกันอาการอ่อนล้าและความรู้สึกหมดแรงได้อย่างไร?
การมีสุขลักษณะการนอนที่ดีเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งสิ่งที่ควรและไม่ควรทำมีดังนี้

สิ่งที่ควรทำ
• นอนให้มากเท่าที่ต้องการพักผ่อนเท่านั้น แล้วค่อยลุกจากเตียง
• นอนให้ได้เวลาเดิม
• ออกกำลังกายเป็นประจำ โดยทำก่อนเวลานอนอย่างน้อย 4-5 ชั่วโมง
• ทำให้สภาพแวดล้อมในห้องนอนเอื้อต่อการนอนหลับ
• จัดการกับความรู้สึกวิตกกังวลให้เรียบร้อยก่อนเวลาเข้านอน
สิ่งที่ไม่ควรทำ
• พยายามนอนทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รู้สึกง่วง
• ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหลังจากทานอาหารกลางวัน
• ดื่มแอลกอฮอล์ใกล้เวลาเข้านอน
• สูบบุหรี่โดยเฉพาะตอนเย็น
• เข้านอนโดยที่ยังหิว
• ใช้อุปกรณ์ที่หน้าจอมีแสงก่อนเข้านอน

ผู้ใหญ่จำเป็นต้องนอนวันละกี่ชั่วโมง?

จำนวนชั่วโมงการนอนจะขึ้นอยู่กับอายุ ซึ่ง National Sleep Foundation แนะนำว่า คนที่มีอายุ 18-64 ปี ควรนอนให้ได้คืนละ 7-9 ชั่วโมง ในขณะที่ผู้ใหญ่ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป จำเป็นต้องนอน 7-8 ชั่วโมงต่อคืน

แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าอาการอ่อนล้าเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพทีอาจเกิดขึ้น?

สัญญาณที่บอกว่าอาการอ่อนล้าสามารถเป็นอาการของปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น
• ไม่มีเรี่ยวแรง ไม่ว่าจะทางกายหรือใจ
• ไม่สามารถทำให้ตัวเองตื่นตัว หรือไม่สามารถเริ่มต้นทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้
• นอนโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือนอนในเวลาที่ไม่เหมาะสม
• ความสามารถในการทำกิจกรรมลดลง
• อ่อนล้าง่าย
• ไม่มีสมาธิ ความจำแย่ลง หรืออารมณ์ไม่เสถียร

เมื่อไรที่ควรไปพบแพทย์?

คุณอาจไปพบแพทย์ทันที หรือแนะนำให้คนรอบตัวไปพบแพทย์เมื่อกังวล ซึ่งแพทย์อาจประเมินคุณเพื่อหาระดับความรุนแรงของอาการและสาเหตุที่เป็นไปได้ โดยปกติแล้วการประเมินจะเริ่มจากการสอบประวัติโดยละเอียดและการตรวจร่างกาย ซึ่งคุณอาจจำเป็นต้องได้รับการตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจทางห้องปฏิบัติการ การทำ Imaging Studies หรือ Sleep Studies เพื่อหาสาเหตุ

ยาแก้แพ้และยาแก้คัดจมูกทุกชนิด เช่น ไดเฟนไฮดรามีน (แก้แพ้) ซูโดอีเฟดรีน (แก้คัดจมูก) เฟนิลโพรพาโนลามีน และคอลเฟนิรามีน อาจก่ออันตรายร้ายแรงถ้าสัตว์บังเอิญกินเข้าไปเกินขนาด สัญญาณที่แสดง มีอาการซึม หายใจลำบาก ตื่นเต้น กล้ามเนื้อเต้นหรือสั่น ชัก หัวใจเต้นผิดจังหวะ อาเจียน และไข้ขึ้น การรักษามักได้ผลดีและมักประกอบด้วยการทำให้อาเจียน ถ้าสัตว์เพิ่งกินยาเข้าไปไม่นาน ให้ถ่านผง ให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำ ให้ออกซิเจน ให้ยาไดอะเซแพมหรือยาฟีโนบาร์บิทาลเพื่อควบคุมอาการชัก และให้ยาโพรพราโนลอลหรืออะโทรพีนเพื่อปรับจังหวะการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ

ยาที่ใช้ในการรักษาการเจ็บไข้ได้ป่วยของมนุษย์ ยาบางตัวไม่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงในบ้าน ซึ่งไม่ใช่สัตว์เลี้ยงที่ไม่ได้รับเชิญนะ

พาราเซตามอล

พาราเซตามอล เป็นยาบรรเทาอาการปวดและลดไข้ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยสำหรับมนุษย์ แต่เป็นยาพิษร้ายแรงสำหรับสุนัขและโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแมว ขนาดยาที่เป็นพิษสำหรับสุนัขคือ 165 มิลลิกรัม และสำหรับแมวอยู่ที่ 55 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ซึ่งขนาดยาพาราเซตามอลขนาดปกติอยู่ที่ 325 มิลลิกรัม สามารถฆ่าแมวได้ 1 ตัว

สัญญาณที่แสดงอาการพิษของยาพาราเซตามอล ต่อสุนัขคือ ซึม อาเจียน น้ำปัสสาวะสีน้ำตาลแดง คล้ำ และตายภายในเวลา 2-5 วัน แมวที่ได้รับพิษยาพาราเซตามอลอาจมีอาการหน้าบวม อุ้งเท้าบวม เบื่ออาหาร น้ำลายฟูมปาก อาเจียน ซึม เหงือกเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลหรือม่วงแดง น้ำปัสสาวะเป็นสีช็อกโกแลต อาการทั้งหลายเหล่านี้จะแสดงหลังได้รับยาเพียง 1-2 ชั่วโมง และตายภายในเวลา 18-36 ชั่วโมง
การรักษาแมวที่ได้รับพิษยาพาราเซตามอลมักไม่ค่อยได้ผล การรักษาสุนัขได้ผลดีกว่า แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดยาที่ได้รับด้วย ต้องพาสัตว์ที่ต้องสงสัยว่าได้รับพิษยาพาราเซตามอลไปโรงพยาบาลสัตว์ทันที การรักษาในโรงพยาบาลอาจมีการทำให้อาเจียน ให้กินถ่านผง ให้ยาอะเซทิลซิสทีน ให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำ ให้ออกซิเจนหรือต้องถ่ายเลือดในตัวทั้งหมด แมวที่ได้รับพิษยาพาราเซตามอลต้องประคับประคองให้มากที่สุด เพราะอาจตายได้เนื่องจากความเครียด

โดยปกติแล้วธรรมชาติสร้างให้ร่างกายของคนเรามีภูมิต้านทาน ซึ่งจะทำหน้าที่ต่อต้านสิ่งที่เป็นภัยต่อร่างกาย เช่น สารพิษ สิ่งแปลกปลอม เชื้อโรคต่างๆ เมื่อได้รับอันตราย ร่างกายจะเตือนผู้ที่ได้รับสารนั้นด้วยการหลั่งสารหลายชนิดในร่างกาย เช่น อีสตามีน (Histamine) สารที่หลั่งออกมานี้จะก่อให้เกิดอาการแพ้ทำให้มีอาการต่างๆ เช่น อักเสบ บวม แดง คัน และเกิดปฏิกิริยาต่างๆ ในร่างกายเพื่อกำจัดสิ่งที่เป็นอันตรายนั้นออกไป

เมื่อใดที่ภูมิต้านทานทำงานผิดปกติ แม้จะได้รับสิ่งที่คนทั่วไปได้รับแล้วไม่เป็นอันตราย เช่น ละอองเกสรดอกไม้ ยางไม้ ความร้อน ความเย็น อาหารทะเล ก็ทำให้เกิดการแพ้ได้ หรือที่เรียกว่าภูมิแพ้ ในทำนองเดียวกันอาการแพ้นี้ถ้าเกิดจากยาก็เรียกว่าการแพ้ยา
การแพ้ยาไม่ได้ขึ้นกับขนาดของยา หมายถึงได้รับยาชนิดนั้นปริมาณมากน้อยเท่าใดก็เกิดการแพ้ได้ทันที และไม่ทำลายสามารถจะชี้ชัดได้ว่าจะเกิดขึ้นกับใครบ้าง แต่ก็อาจพบได้ง่ายในคนที่มีประวัติแพ้ยาชนิดหนึ่งมาก่อน หรือคนที่มีประวัติของโรคภูมิแพ้ เช่น หืด หวัดเรื้อรัง ลมพิษ ผื่นคัน การรับประทานยามีโอกาสแพ้ยาน้อยที่สุด ส่วนการทายาจะทำให้แพ้ง่ายที่สุด และถ้าฉีดยาโอกาสที่แพ้เกิดรุนแรงและแก้ยากที่สุด ฉะนั้นการฉีดยาบางชนิดจึงต้องทดสอบดูก่อนว่าแพ้หรือไม่

การแพ้ยาแบ่งออกได้เป้น 2 ชนิด 1. การแพ้ยาที่เกิดขึ้นแบบทันทีทันใด แบ่งเป็น อะนาฟัยแลกซีส (Anaphylaxis) เป็นอาการแพ้ที่พบได้น้อย แต่ว่ารุนแรงถึงชีวิต เนื่องจากหลอดลมตีบ ความดันโลหิตต่ำ หมดสติ อาการที่เกิดขึ้นรวดเร็วมากต้องทำการรักษาอย่างทันท่วงที มิฉะนั้นอาจเสียชีวิตได้ ยาที่ทำให้เกิดอาการแพ้เช่นนี้ เช่น เพนนิซิลิน ยาฉีดทุกชนิด อาการแพ้อื่นๆ เช่น มีอาการผื่นคัน บวม มีไข้ หอบหืด หากหยุดยา 2-3 วันไข้ก็จะหายไป บางครั้งอาจเกิดอาการหอบหืด คัดจมูกได้ 2. การแพ้ยาแบบทิ้งช่วง ร่างกายจะแสดงอาการหรือมีการตอบสนองต่อยาหลังจากได้รับยาไปแล้ว 1-2 วัน อาการที่พบได้แก่ ผื่นแดง อักเสบ เม็ดเลือดขาวลดลง โลหิตจาง แผลในกระเพาะอาหารจนถึงไตถูกทำลาย

เมื่อแพ้ยาควรทำอย่างไร?

ถ้าแพ้เพียงเล็กน้อย เช่น มีผื่นแดง คัดจมูก แน่นหน้าอก ให้หยุดยาเปลี่ยนไปใช้ยาอื่นแทน อาการเหล่านี้จะหายเองภายใน 2-3 ชั่วโมง ถ้ามีผื่นคันมากอาจให้ยาแก้แพ้ชนิดรับประทานบรรเทาอาการได้ ถ้าแพ้รุนแรงให้หยุดยาและรีบไปพบแพทย์ ขณะส่งแพทย์ควรทำให้ผู้ที่แพ้อาเจียน หรือให้รับประทานสิ่งที่ช่วยลดการดูดซึมของยา เช่น ยาเม็ดผงถ่าน ยาแก้ท้องเสีย เคาลินเพคติน เมื่อแพ้ยาใดแล้วต้องจดจำชื่อสามัญทางยาของยาที่แพ้นั้นหรือจดใส่สมุดบันทึกไว้ ไม่ควรจำสีหรือรูปร่างลักษณะของเม็ดยา เนื่องจากไม่อาจบ่งบอกได้แน่นอนว่าเป็นยาอะไร หากไม่มีชื่อยาบนซองหรือฉลากที่ใช้ ท่านควรกลับไปขอชื่อสามัญทางยาจากแหล่งที่ได้รับยานั้นเพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง งดใช้ยาที่ท่านเคยแพ้และเมื่อไปพบแพทย์หรือซื้อยาควรแจ้งให้ทราบว่าท่านเคยแพ้ยาอะไร เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ยานั้น หรือยาที่มีส่วนผสมของยาที่ท่านเคยแพ้ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายรุนแรงกว่าที่เคยเป็นได้

ที่สำคัญคือ ไม่ควรใช้ยาพร่ำเพรื่อโดยไม่จำเป็นโดยเฉพาะยาที่ท่านไม่มีโอกาสทราบเลยว่าเป้นยาอะไร เช่น ยาชุด ยาที่ไม่มีฉลาก หากเจ็บป่วยมากต้องได้รับการรักษาด้วยา ควรพบแพทย์หรือขอคำแนะนำเรื่องยาจากเภสัชกรจะดีที่สุด

แพ้ยา โดย ภญ.พูลสุข จันทร์วัฒนเดชากุล จาหนังสือ "หยูกยาน่ารู้" มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ

BNK48 "1st 2gether" Concert
งาน คอนเสิร์ต BNK48 "1st 2gether" จัดขึ้นวันที่ 15 กันยายน 2561 แสดง ณ ลานหน้า CentralWorld เป็นรวมรุ่น 1 และ 2 จำนวน 52 ชีวิต ท่ามกลางฝนตกหนักก่อนงานเริ่มโดยประมาณ 1 ทุ่มตรง แต่ FC ของวงไม่มีทีท่าจะลุกหลบฝนไปไหน งานคอนเสิร์ตครั้งนี้เปิดตัวได้อย่างอลังการด้วยการเปิดตัวของจอดิจิทัลอินเตอร์แอคทีฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก The PanOramix@ CentralwOrld ขนาด 3,790 ตารางเมตร ยิงภาพสดๆของน้องๆ BNK48 ขึ้นจอขนาดยักษ์ จำนวนคนที่ชมคอนเสิร์ตไม่ต่ำกว่า 7,000 คน (ยอดแจกเตรียมเสื้อกันฝน 7,000 ตัว)

เปิดตัว BNK48 ทั้ง 52 คน ด้วยเพลงชาติของวง BNK48, Aitakatta-อยากจะได้พบเธอ, Oogoe Diamond-ก็ชอบให้รู้ว่า, ต่อด้วยรุ่น 2 Namida Surprise-ประกายน้ำตาและรอยยิ้ม, ยูนิตพิเศษเฌอสิค Temodemo no Namida-หยาดน้ำตาดั่งฝนพร่ำ(ผู้เขียนนิยามชื่อเพลงเองนะ), ยูนิตพริ้ว รุ่นที่ 2 Skirt, Hirari-พลิ้ว, River จากรุ่น 1 และ รุ่น 2 แทนตำแหน่งที่หายไป, รวมรุ่น 1 และ 2 Sakura no hanabiratachi-ความทรงจําและคำอำลา

จากนั้นก็มาถึงช่วงการเปิดตัวของเพลง Kimi wa Melody-เธอคือ...เมโลดี้ เริ่มจากการประกาศเซ็มบัตสึของเพลง แล้วเข้าสู่การเปิดตัวของเพลง Kimi wa melody ด้วยชุดประจำซิงเกิ้ล, Tsugi no Season-ฤดูใหม่ จากรุ่น 2 และแล้วก็มาถึงเพลงใหม่อีกเพลง Yume e no route-หมื่นเส้นทาง

บนเวทีนิ่งไปสักพักใหญ่ ภาพในจอยักษ์ที่มืดสนิทเปลี่ยนเป็นภาพกล่องดนตรีพร้อมเสียง นั้นคือ MV "Kimi wa Melody-เธอคือ…เมโลดี้" สาวๆมาในชุด "สยามโลลิต้า" ชุดไทยประยุกต์ในสมัยรัชกาลที่ 5 จบ MV สาวๆออกมาเดินแบบชุดกัน บอกตรงๆเลยว่าสุดๆจริงๆชุดที่ไม่ได้หาดูกันได้ง่าย

และสาวๆ BNK48 ทั้ง 52 คนก็ออกมาในชุดออกกำลังกาย หลังจาก MC ทั้ง 4 นิ้ง น้ำใส มิโอริ และรินะจัง ดึงเข้าสู่ช่วงต่อไปด้วยการออกกำลังด้วยเพลง Shonichi-วันแรก และสุดท้ายเพลงที่คุ้นหูไปทั่วไปประเทศ Koisuru Fortune Cookie-คุกกี้เสี่ยงทาย

ล่าสุด Update 16.09.2561 15.15น. ทะลุ 1 ล้านวิวแล้วสำหรับ Kimi wa Melody-เธอคือ...เมโลดี้

มีข้อมูลเกี่ยวกับชุดที่น้องๆใส่กันว่าจุดกำเนิดมาจากที่ไหน (เครดิต: workpointnews.com อ้างอิงจาก ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Inkky Chonlapong ประชาสัมพันธ์ของวง BNK48 ได้โพสต์ถึงที่มาที่ไปของชุดว่า)

"ขอเล่าให้ฟังนิดนึง !! เนื่องจาก MV Kimiwa Melody ของทางญี่ปุ่น เขาทำไว้ดีมาก และชุดกิโมโน เขาสวยมาก เราจึงคาดหวังกับชุดไทยมากเช่นกัน ด้วยเหตุการณ์อะไรหลายๆอย่าง ชุดมันยังออกมาไม่ดี เราจึง อธิษฐานขอและ บนกับ “เสด็จพ่อ รัชกาลที่5” ว่าขอให้ได้ชุดไทยออกมาสวยงามให้สมดังตั้งใจไว้ และน้องสไตลิสก็เอาแบบชุดที่ขายผู้บริหารผ่านให้ดู ว่าจะออกแบบชุดไทยของเจ้านายชั้นสูง สมัยรัชกาลที่5 เอามาประยุกต์
ซึ่งเราไม่ได้พูดคุยกันมาก่อนเลย ว่าจะออกแบบชุดไทยสมัยไหนกัน !! เราก็ไม่ได้หวังว่าจะเป็นสมัย ร.5 แต่น้องนึกถึง และ ออกแบบ ขึ้นมาได้เอง เราเล่าว่าไปขอ ร.5 นางขนลุกมากเลย !!
ความคิดเห็นส่วนตัว เสด็จพ่อรัชกาลที่5 ทรงอยากให้เห็นชุดไทยสมัยท่าน ให้คนไทยได้ดูบ้าง ส่วนตัวเรานับถือเสด็จพ่อ ร.5 มากอยู่แล้วมีอะไรอธิษฐาน ขอท่านตลอด
#bnk48 #kimiwame

การประกาศเพลงที่ 3 จากซิงเกิ้ลที่ 4 Kimi wa Melody - เธอคือเมโลดี้ ในช่วงเย็นวันที่ 19 สิงหาคม 2561 คือเพลง หมื่นเส้นทาง - yume e no route ได้ปูเป้ เป็น center ของเพลง

สมาชิกในเพลงประกอบด้วย 01เจนนิษฐ์ 02ปูเป้ 03เคท 04เจน 05น้ำหนึ่ง 06มิโอริ 07จ๋า 08มายด์ 09น้ำใส 10อิสึตะรินะ 11ซัทจัง 12จิ๊บ 13ก่อน 14ไข่มุก 15นิ้ง และ 16เปี่ยม ขาดสมาชิกรุ่นที่ 1 เพียงคนเดียวคือ เมษา 

"เพลงนี้เป็นสัญญาณแห่งการแข่งขัน ในเนื้อเพลงจะบอกเล่าเกี่ยวกับการแข่งขันของเพื่อนในรุ่นเดียวกัน เมื่อจุดสตาร์ทเราออกตัวไปพร้อมกัน แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปแทนที่เราจะวิ่งเรียงกันเป็นหน้ากระดาน แต่เป็นการวิ่งเรียงลำดับกัน เราไม่ใช่เพียงแค่เพื่อนกันเท่านั้น แต่เป็นคู่แข่งกันเสียด้วย แต่เราจะวิ่งไปข้างหน้าเพื่อนำไปสู่วันที่ดีกว่า" ข้อมูลจาก GM live

ในการประกาศครั้งนี้ มีโปรเจคพิเศษ BNK48 หมื่นเส้นทาง Challenge Project - Jiradapa Produced Concert- จะแสดงในวันที่ 23 ตุลาคม 2561 ณ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ คอนเสิร์ตนี้จะโปรดิวซ์โดย ปูเป้ โดยมีเงื่อนไขคือสมาชิก 5 คนในกลุ่มเพลง “หมื่นเส้นทาง“ ที่ไม่เคยติดเซ็มบัตสึเพลงหลัก (เคท, น้ำใส, จิ๊บ, นิ้ง, เปี่ยม) เป็นเซ็นเตอร์ในการแสดงอย่างน้อยคนละ 1 เพลง

และยังมีเซอร์ไพรส์ประกาศฟรีคอนเสิร์ตรวมกันระหว่างรุ่นที่ 1 และรุ่นที่ 2 ในวันที่ 15 กันยายนที่จะถึงนี้บริเวณลานห้างสรรพสินค้าเซนทรัลเวิลด์

คลิปเพลง Yume e no route จาก AKB48 Team 8

ประกาศเซ็มบัตสึซิงเกิ้ลที่ 4 "Kimi wa Melody –เธอคือ...เมโลดี้–"
01 Cherprang 02Tarwaan 03Jennis 04Pupe 05Noey{Center} 06Jane 07Namneung 08Jaa 09Kaew, 10Mind{ครั้งแรก} 11Orn 12Mobile 13Music 14Pun 15Satchan 16Kaimook 17 Cake{ครั้งแรก} 18Aom{ครั้งแรก} 19Minmin{ครั้งแรก} 20Phukkhom{ครั้งแรก} 21Faii{ครั้งแรก}

Girls Don't Cry หนังสารคดีเล่าเรื่องผ่านตัวละครจริง
Score : 0
ผมไม่ใช่นักวิจารณ์หนัง นักวิจารณ์เพลง ผมเขียนเนื้อหาตามความรู้สึกและประสบการณ์ที่ได้รับมา
ที่ผมให้ Score = 0 มันคือเรื่องจริง เพราะผมไม่สามารถมีความเป็นธรรมในการให้คะแนนการรีวิวหนังเรื่องนี้ เป็นหนังที่ไม่มีคะแนนแต่ถ้าคุณตาม BNK48 คุณต้องไปดูห้ามพลาด
โทนของหนังถ้าคุณได้ดูหนังตัวอย่างที่โปรยๆเอาไว้ตามโซเชียลเน็ตเวิร์ค ทั้งเรื่องมันคือแบบนั้นเลย ความลึกของความรู้สึกที่ถ่ายทอดออกมาแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งเหมือนที่เจนนิษฐ์เคยบอก (เจนนิษฐ์ 1 ในสมาชิก BNK48) เรื่องบางเรื่องที่น้องๆ BNK48 พูดออกมาน่าจะลึกและชัดเจนกว่านี้แต่ตัวหนังต้องผ่านการพิจารณาจากผู้บริหารมันจึงทำได้แค่นี้ ถ้าเป็นหนังที่ผ่านการเล่าเรื่องจากสมาชิกที่ออกจากวงไปแล้ว (ศัพท์ของวงเรียกว่าการจบการศึกษา = Graduation) และไม่ผ่านการพิจารณาจากต้นสังกัด เนื้อเรื่องของหนังจะลึกและชัดเจน
เนื้อเรื่องของหนังคือ ชีวิตจริงปกติของคนทั่วไปที่ไม่ได้มีแค่ 2 ด้าน มันมีหลายๆด้านตามคำโปรยในแผ่นปิด "น้ำตาวัยรุ่นมีหลายความหมาย" 01ความพยายาม 02ความดัง 03การแข่งขัน 04การชนะ 05การแพ้ 06ชนชั้น 07อันดับ 08วัยเยาว์ 09ตัวตน 10ความโกรธ 11ความน้อยใจ 12การถูกจดใจ 13การถูกหลงลืม 14ความฝัน 15ความจริง
ในความหมายต่างๆที่ถ่ายทอดออกมามีมากบ้างน้อยบ้างตามการร้อยเรียงของเนื้อเรื่อง บางความหมายก็เน้นมากเกินไป บางความหมายแทบไม่มีความสำคัญ มีความฮาในความเทาๆบ้าง
สำหรับตัวผมเองอยากเห็นเนื้อเรื่องที่ลึกและชัดเจนกว่านี้ เวลาในการดูเหมือนมันสั้นแป็ปเดียวทั้งๆที่หนังมีความยาวถึง 110 นาที เกือบ 2 ชั่วโมง
สุดท้ายสั้นๆ ถ้าคุณตาม BNK48 คุณต้องไปดูห้ามพลาด แต่ถ้าคุณไม่ได้ตามหรือไม่มีข้อมูลในการรับชมมาบ้าง คุณจะไม่มีความรู้สึกตามไปกับหนังเรื่องนี้

BNK48 ในช่วงปลายปี 2560 ถึง ต้นปี 2561 เป็นช่วงกระแส คุกกี้เสี่ยงทายกำลังมาแรง น้องๆ BNK48 ได้สร้างปรากฏการณ์หลายๆอย่างให้แก่วงการเพลง ปรากฏการณ์ที่ชัดที่สุดคือ การขายซีดีเพลง ซึ่งกระแสนี้เกือบจะสูญหายไปแล้ว (แม้แต่โรงงานผลิตกล่องซีดียังหายากเลย) ในเมื่อกระแสกำลังแรงมาดูผลตอบแทนทางด้านจิตใจของน้องๆ BNK48 กัน นี้คือรางวัลต่างๆที่ BNK48 ได้รับมา

1. MThai Top Talk-About 2018 รางวัลในสาขา ศิลปินที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด
   • รางวัลที่เป็นที่สุดของโลกออนไลน์ โดยอ้างอิงคะแนนจากการโพสต์ การแสดงความคิดเห็น และการเข้าชมในเว็บไชต์ เริ่มแจกรางวัลประจำปี 2012
2. THE GUITAR MAG AWARDS 2018 รางวัล เพลงฮิตที่ได้รับความนิยมแห่งปี "คุกกี้เสี่ยงทาย" 
   • รางวัลของคนดนตรี จัดติดต่อกันเป็นครั้งที่ 7 แล้วในปี 2018 ตัดสินโดยทีมงานคุณภาพทำการคัดสรรและลงคะแนนกัน
3. Thailand Zocial Awards 2018 รางวัลในสาขา ศิลปินกลุ่มที่มีผลงานยอดเยี่ยมบนโซเชียลมีเดีย
   • รางวัลคนออนไลน์ด้วยการวัดผลจริง ปี 2018 จัดเป็นครั้งที่ 6 แล้ว โดยใช้ 5 Metric หลักได้แก่ Fan Based การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและผู้ติดตาม, Growth การเพิ่มขึ้นของจำนวนกลุ่มเป้าหมาย, Interaction การตอบสนองของเนื้อหา, Share การแชร์บนโซเชียลมีเดีย, Sentiment ความรู้สึกของลูกค้าบนโซเชียลของ ในชื่อหลักการวัดว่า “Zocial Metric”
4. JOOX Thailand Music Awards 2018 รางวัลในสาขา ศิลปินหน้าใหม่แห่งปี
   • จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 โดยศิลปินและผลงานเพลงที่ได้เข้าชิงทั้งหมด มาจากการร่วมโหวตและคัดเลือกจากศิลปิน และบุคคลในแวดวงดนตรีในเมืองไทย
5. Kazz Awards 2018 สาขา รางวัลศิลปินหน้าใหม่มาแรง (Rising) : BNK48
   • ปี 2018 จัดขึ้นเป็นปีที่ 12 แล้ว ผลการตัดสินได้จากคะแนนโหวต
6. Line Stickers Awards 2018 รางวัลสติกเกอร์ดารายอดนิยมแห่งปี (Best Celebrity Sticker Award) สติกเกอร์จากวง BNK48 ออกมาทั้งสิ้น 2 ชุดด้วยกัน โดยชุดแรกคือ ชุด BNK48: Koisuru Fortune Cookie (คุกกี้เสี่ยงทาย) และอีกชุดคือ BNK48 Shonichi (วันแรก)ที่เป็นการเปิดตัวชุดยูนิฟอร์มครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งมียอดดาวน์โหลดสูงขึ้นอันดับ 1 ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง (ข้อมูลจาก : marketingoops)
   • เป็นรางวัลที่มอบให้กับสุดยอดสติกเกอร์ที่มีความโดดเด่นสูงสุด 7 สาขา คือ รางวัลสุดยอดความร่วมมือแห่งปี (Best Collaboration Sticker Award) รางวัลสติกเกอร์หน้าใหม่ยอดนิยมแห่งปี (New Face Best Seller Award) รางวัลสติกเกอร์ขวัญใจมหาชน (People’s Choice Sticker Award) รางวัลสติกเกอร์สุดล้ำแห่งปี (Most Trendy Sticker Award) รางวัลสติกเกอร์สายฮา (Funniest Sticker Award) รางวัลครีเอเตอร์ดาวเด่น (Top Rising Star Award) และ รางวัลสติกเกอร์ดารายอดนิยมแห่งปี (Best Celebrity Sticker Award)
7. สยามดารา สตาร์ อวอร์ด 2018 รางวัลศิลปินกลุ่มยอดนิยม และ เพลงยอดนิยม
   • สยามดารา สตาร์ส อวอร์ดส์ 2018 เป็นงานที่หนังสือพิมพ์สยามดาราจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 10 (ปี 2560 งดจัด) เพื่อมอบรางวัลเกียรติยศแก่บุคคลในวงการบันเทิง โดยรางวัลทั้งหมดมีหลักเกณฑ์การพิจารณาผลงานในรอบปีที่ผ่านมา
8. MAYA AWARDS (มายามหาชน) 2018 รางวัลศิลปินกลุ่มยอดนิยม ได้แก่ BNK48
   • ปี 2018 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ผลการตัดสินได้การคัดสรรจากทีมงาน และจากคะแนนโหวตจากผู้โหวต

Cr.ภาพจาก MThai, THE GUITAR MAG, Thailand Zocial, JOOX Thailand, BNK48, Marketing oops