พาราเซตามอล
ชื่อสามัญ | Paracetamol/Acetaminophen |
ประเภท | บรรเทาอาการปวด/ลดไข้ |
ขนาด/บรรจุ อื่นๆ | ชนิดเม็ด, ชนิดน้ำเชื่อม, ชนิดน้ำแขวนตะกอน |
ข้อบ่งใช้/สรรพคุณ | ควบคุมอาการปวดศรีษะ ปวดหู ปวดประจำเดือน ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดฟัน ลดไข้จากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส ใช้ในผู้ป่วยที่แพ้แอสไพริน มีปัญาเลือดออก ได้รับยาต้านการแข็งตัวของเลือด โรคเกาต์ |
วิธีใช้ |
สำหรับเด็กเล็กและทารก: ปริมาณที่ให้จะคำนวณตามน้ำหนักของเด็ก คือให้ขนาด 10-15 มก. ต่อน้ำหนักตัว 1 กก. ทุก 4-6 ชม. ไม่เกินวันละ 2.6 กรัม ซึ่งอาจให้ยารับประทานโดยตรง หรือผสมกับน้ำหรือผลไม้ก็ได้ สำหรับผู้ใหญ่: ครั้งละ 1-2 เม็ด (ขนาด 325 มก. หรือ 500 มก.) ทุก 4-6 ชม. ทั้งนี้ไม่เกินวันละ 4 กรัม |
การออกฤทธิ์ | ยับยั้งการสังเคราะห์ Prostaglandins ในระบบประสาทส่วนกลางได้ดี แต่ยับยั้งการสร้างสารนี้ที่บริเวณนอกสมองได้น้อยโดยเฉพาะในบริเวณที่เกิดการอักเสบ ซึ่ง Prostaglandins เป็นตัวทำให้เกิดความเจ็บปวด และทำให้เกิดไข้ที่มีผลต่อศูนย์ควบคุมอุณหภูมิของร่างกายที่ฮัยโปธาลามัส ยานี้ไม่มีฤทธิ์ยับยั้งการเคลื่อนตัวของ Neutrophil จึงมีฤทธิ์ต้านการอักเสบต่ำมาก ไม่ทำให้เกิดแผลในทางเดินอาหารและไม่มีผลต่อการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด ยาจะออกฤทธิ์สูงสุดในเวลา 30-60 นาทีหลังได้รับยา หากได้รับยาเกินขนาดจะมีพิษต่อตับและไต จึงไม่ควรใช้ยานี้ติดต่อกันเกิน 7 วัน |
ปฏิกิริยาต่อกัน | ควรระวังการใช้ยานี้ในขนาดสูงร่วมกับยาต้านการชัก Phenytoin เพราะจะทำให้ผลของยาตัวนี้ในการลำลายตับมีมากขึ้น |
ผลข้างเคียง | ง่วงซึม แพ้ยา เช่น มีผื่น บวม เป็นแผลที่เยื่อบุช่องปาก มีไข้ เป็นต้น ในขนาดที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดตับวายและถึงแก่ความตาย คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย อาการดีซ่าน ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ อาจมีเยื่อหุ้มสมองอักเสบ |
คำเตือน | ยานี้มีการใช้เป็นส่วนผสมหนึ่งในยาแก้หวัด ใช้ร่วมกับยาแก้ไอหรือยาแก้แพ้อื่นๆ ดังนั้นก่อนใช้ยาดังกล่าว ควรอ่านส่วนประกอบให้แน่ใจเสียก่อน เพื่อไม่ให้เกิดการใช้ยาเกินขนาดซึ่งอาจเกิดพิษต่อตับ และควรใช้ยาอย่างระมัดระวังในผู้ป่วยโรคตับ ห้ามใช้ยานี้ในคนที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD |
Updated |
พาราเซตามอล reviews
Be the first to write a review of this product!